ประวัติ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยอดเซ็นเตอร์แบ็ค ชาวดัตช์ ของลิเวอร์พูล สุดยอดขุนพลลิเวอร์พูลที่ทุกคนจับตา
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ท่านนี้ในปัจจุบันนับว่ามีประวัติที่ไม่ธรรมดา ซึ่งกว่าจะมาเป็นเขาในวันนี้ได้ที่จะมายืนเป็นตำแหน่งกองหลังระดับโลก และเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์มาอย่างสม่ำเสมอนั้น เขาคนนี้จะต้องผ่านอะไรมาบ้าง คาดว่าหลาย ๆ ท่านก็คงคิดว่าเป็นสิ่งไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน และคุณกำลังจะได้ติดตามขวัญใจดาวเตะยอดขุนพลแห่งลิเวอร์พูลที่ทางเราจะเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้กันทางนี้เลย
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ครั้งเมื่อก้าวแรกสู่โลกใบนี้
สำหรับประวัติของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่เราอยากให้ทุกท่านได้รู้จักกันนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่าเขาคนนี้ได้ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมปี 2534 ซึ่งนี่เป็นนักบอลอาชีพชาวฮอลแลนด์ โดยในปัจจุบันนี้ได้เล่นในตำแหน่ง Center back ให้กับสโมสรลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก และยังดำรงตำแหน่งทีมชาติเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกใบนี้เลยทีเดียว ซึ่งหลาย ๆ ท่านก็คงรู้จักถึงความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำตลอดจนความสามารถในการเลี้ยงลูกและเล่นจังหวะบอลกลางอากาศด้วยตัวของเขาคนเดียวนั้นเป็นอย่างดีแล้วใช่ไหม ซึ่งนี่นับว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีรางวัลยอดเยี่ยมการันตีจากยูฟ่าและยังได้ตำแหน่งรองแชมป์บัลลงดอร์ และตำแหน่งนักเตะชายยอดเยี่ยมของ FIFA อีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาเลย
เจาะประวัติจุดเริ่มต้นของการเป็นนักเตะของยอดขุนพลคู่นี้นั้น
ในครั้งแรกได้ค้าแข้งกับโกรนิงเก้นและได้ย้ายไปเซลติก ต่อมาในปี 2013 เขายังได้คว้าแชมป์ สก็อตติ พรีเมียร์ชิพ พร้อมกันนั้นยังได้รับโอกาสในการเสนอชื่อให้เป็นทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ pfa scotland ทั้งในฤดูกาลของเขากับสโมสร ต่อมายังคว้าแชมป์ สก็อตติช ลีก คัพอีกด้วย โดยหลังจากในปี 2015 เขาได้ขอเข้าร่วมทีมเซาแธมป์ตัน ก่อนที่จะเริ่มต้นเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลในเดือนมกราคม 2018 โดยค่าตัวที่สูงถึง 75 ล้านปอนด์ ซึ่งในนาทีนั้นนับว่าเป็นค่าตัวที่ทำลายสถิติโลกแบบขาดรอยเลยทีเดียวสำหรับกองหลังนั่นเอง ซึ่งได้ทำการเล่นจนทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูอีเอฟเอแชมเปียนส์ลีกที่ติดต่อกันในปี 2018 และ 2019 ได้สำเร็จในที่สุด นอกจากนี้เขานั้นยังได้รับเลือกให้ครองตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA อีกด้วย โดยยังมีเกียรติประวัติที่สำคัญนั้นได้แก่ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลแรก เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้พาทีมคว้าแชมป์ FIFA Club World Cup และยูฟ่าซูเปอร์คัพ พร้อมกันนั้นยังสามารถช่วยยุติความแห้งแล้งในลีก 30 ปีของสโมสรด้วยการที่เริ่มต้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2019 – 2020 มากครองได้อย่างงดงามเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เขาผู้นี้นั้นเมื่อครั้งได้เปิดตัวเล่นกับทีมชาติของเขา ก็นับว่าเป็นจังหวะชีวิตที่ไม่ธรรมดาโดยเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้กลายเป็นกัปตันของฮอลแลนด์ในปี 2018 และในปีเดียวกันนั่นเองเขาได้ทำประตูแรกให้กับทีมชาติในการเริ่มต้นชนะโปรตุเกส 3 ต่อ 0 ต่อมาอีก 1 ปีให้หลังเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ก็ยังได้ดำรงตำแหน่งกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าเนชั่นลีก ซึ่งพวกเขายังได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอีกด้วยในปีนั้น ๆ
ค้นหาความลับประวัติเรื่องราวในวัยเด็กของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
เอาล่ะในตอนนี้เราจะพาทุกท่านย้อนอดีตกลับไปพบกับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยอดขุนพลแห่งทีมลิเวอร์พูล ซึ่งเขาเกิดวันที่ 28 กรกฎาคม 1991 ใน Breda ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อตอนเยาว์วัยเขามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากเป็นฝีในช่องท้องนับว่าอันตรายเป็นอย่างมาก และต่อมาได้ทราบว่าเป็นโรคมะเร็งในช่องท้องตั้งแต่กำเนิด โดยภายใต้ความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่เพราะเขาได้รักษาโรคร้ายดังกล่าวนั้นจนหายขาดโดยปราศจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ แถมร่างกายยังมีความเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ พร้อมกันนั้นเขายังได้ฟิตร่างกายให้เป็นคนที่แข็งแรงมาก ๆ อีกคนหนึ่ง โดยสำหรับพ่อแม่ของเขาแล้วเรื่องราวทั้งหมดนี้มันคือสิ่งที่มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก เมื่อร่างกายแข็งแรงแล้วเขาก็ได้เริ่มต้นสู่เส้นทางสายอาชีพนักเตะ โดยเขาได้เดินทางระยะทางไกลถึง 255 กิโลเมตร จากบ้านเกิดของใน Brada ไปยังโกรนิน เพื่อไปเริ่มต้นเล่นฟุตบอลเป็นครั้งแรกนั่นเอง
จังหวะชีวิตสำคัญเมื่อลิเวอร์พูลตกลงดึงตัว เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เพื่อร่วมทัพ
สโมสรลิเวอร์พูลนั้นได้มีการเปิดตัว เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค อย่างอลังการในวันที่ 1 มกราคม 2561 โดยมีค่าธรรมเนียมรายงานสูงถึง 75 ล้านปอนด์ ซึ่งอดีตสโมสรเซลติกจะได้รับ 10% ของค่าธรรมเนียมการโอนของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค คนนี้โดยชอบธรรมจากเหตุผลของข้อสัญญาจากเซาแธมป์ตันของเขา ซึ่งเซาแธมป์ตันอ้างว่าค่าธรรมเนียมการโอนที่ไม่เปิดเผยนั้นจะเป็นค่าธรรมเนียมสถิติโลกในวงการฟุตบอลสำหรับสุดยอดกองหลังคนนี้เลยทีเดียว
ประวัติการบาดเจ็บที่น่าเหลือเชื่อของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้ถูกเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 6 ของเมอร์ซี่ไซด์ ดาบี้ด้วยหลังจากการเข้าเสียบของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูของเอฟเวอร์ตัน ในวันต่อมาได้มีการประกาศว่าเขาได้รับการบาดเจ็บจาก acl ที่หัวเข่าขวา และจำเป็นที่จะต้องได้รับการผ่าตัดในวันที่ 30 ต.ค. พ.ศ. 2563 โดยจะได้พักรักษาตัวประมาณ 6 ถึง 12 เดือน และหลังจากที่เขาได้พักรักษาตัวจนหายดี เขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งแรกในรอบ 9 เดือน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 โดยเข้ามานั่งเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังในเกมนักอุ่นเครื่องกับแฮร์ธาบีเอสซี ซึ่งต่อมาในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เขาก็ได้เริ่มต้นเซ็นสัญญาฉบับใหม่อีก 4 ปีที่ทำให้เขายังอยู่ที่สโมสรลิเวอร์พูลที่เขารักจนถึงปี ค.ศ. 2025 เลยทีเดียว