Supachok ชื่อเล่น เช็ค นักฟุตบอลชาวไทยคนนี้ เกิดในครอบครัวทำการเกษตร และ เปิดร้านขายปุ๋ยไปพร้อมกัน ในอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นพี่คนโต จากพี่น้อง 3 คน น้องชายของเขา คือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หรือแบงค์ ก็ได้ตามรอยพี่ชายมาค้าแข้งอยู่ในสโมสรเดียวกัน โดยศุภณัฏฐ์เล่นตำแหน่งกองหน้า ขณะที่สุภโชคเล่นตำแหน่งกองกลาง ซึ่งเขาเริ่มเล่นฟุตบอลเมื่ออายุ 9 ขวบ และได้เป็นนักฟุตบอลโรงเรียนขุขันธ์ เมื่ออายุได้ 13 ปี โค้ชก็ได้เห็นแววพาไปคัดตัวกับ อคาเดมี่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ซึ่งถึงแม้จะมีช่องว่างประสบการณ์กับคนอื่นๆ ถึงสามปี สุภโชค ก็สามารถก้าวเข้าไปเป็นหนึ่งผู้ในที่ผ่านการคัดเลือกจากเยาวชนนับพัน และในสโมสรแห่งนี้เองที่เป็นขัดเกลานักแตะคนนี้จนเป็นดาวรุ่งที่ถูกจับตามองที่สุดคนหนึ่ง
Supachok ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีรุ่นพี่อย่าง สุเชาว์ นุชนุ่ม และจักรพันธ์ แก้วพรม เป็นต้นแบบในการเล่น ขณะเดียวกันเขามักจะติดตามดูและศึกษาการเล่นของนักเตะของสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะทีมโปรดอย่างอาเซนอล ซึ่งมี อเล็กซิส ซานเชส นักเตะที่เขาชื่นชอบ รวมทั้งคนที่มีสไตล์การเล่นคล้ายคลึงกับเขา เช่น อันเดรส อิเนียสต้า, ลิโอเนล เมสซี่ และ เนย์มาร์ สุภโชคเริ่มเป็นที่รู้จักจากการนำทีมรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ชนะการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา ถ้วย ข. ตามด้วยตำแหน่งรองแชมป์กรมพลศึกษา ถ้วย ก และได้เข้าสู่วงการฟุตบอลอาชีพ เมื่อทีมต้นสังกัดได้ส่งเขาไปฝึกปรือกับ สุรินทร์ ซิตี้ ในดิวิชั่น 2 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 2015 ก่อนที่จะได้เข้าสู่การเป็นนักเตะชุดใหญ่เป็นครั้งแรก
สุภโชคได้รับการคัดเลือกไปเล่นกับทีมชาติไทยในรุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ในกลุ่มเค ตั้งแต่ปี 2560 และได้มีบทบาทในทีมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในนัดแรกที่พบกับอินโดนีเซีย ตามด้วยนัดที่สองกับเปรู ด้วยฟอร์มการเล่นที่ โดดเด่นทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองอย่างรวดเร็วทั้งจากผู้ชมและสื่อต่างๆ ในปีเดียวกันนั้น สุภโชคได้ทำตามฝันเข้าสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ในที่สุด หลังจากนั้นในการร่วมกับทีมชาติ สวมเสื้อหมายเลข 7 ลงสนามภายใต้การนำของกุนซือแดนปลาดิบ อากิระ นิชิโนะ เขาก็ได้รางวัล Man of the Match ในศึกนัดแรกกับเวียดนาม แม้ว่าในนัดนี้ผลการแข่งขันจะพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดายก็ตาม เช่นเดียวกับในครั้งที่พบกับอินโดเนเซีย มีส่วนให้ทีมชาติไทยชนะไปได้อย่างขาดลอยด้วยคะแนน 3-0
เมื่อไม่นานมานี้ในศึก โตโยต้า ไทยลีค นัดที่ 4 ในการปะทะแข้งระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ เอฟซี สุภโชคปะทะผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม ปะทะกับศอกของรัตนัย ส่องแสงจันทร์ ในจังหวะโหม่งลูก จนได้รับบาดเจ็บต้องเย็บถึง 19 เข็ม หลังจากที่เคยได้รับบาดเจ็บต้องรับการผ่าตัดกระดูกข้อศอกซ้ายที่แตก ในเกมส์ฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ เมื่อปี 2561 จนพลาดโอกาสลงสนามช่วยทีมในฤดูกาลนั้นไปอย่างน่าเสียดาย เพราะต้องพักรักษาตัวเป็นเวลา 2-3 เดือน
ล่าสุดสุภโชคได้ลงเล่นฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 74 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในฐานะเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยร่วมกับนักเตะทีมชาติหลายคน เช่น ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กัปตันทีมชาติ, ธีรเทพ วิโนทัย, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ แม้จะต้องพบกับคู่ปรับตัวฉกาจที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีในวงการฟุตบอลอาชีพ นักเตะตัวหลักจาก ไทยลีก และ ทีมชาติไทยเช่นเดียวกัน แต่เขาช่วยให้ทีมลูกพระเกี้ยวชนะไป 2-1 ได้สำเร็จ