ประวัติความเป็นมา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สุดแข้งทองยอดจอมทัพแห่งลิเวอร์พูล

BALLVAR

ชื่อเดิม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เกิดวันที่ 15 มิถุนายน 1992 ที่ แนกริก ประเทศอียิปต์ อายุ   28 ปี   สัญชาติ   อียิปต์   ตำแหน่ง กองหน้า, ปีก  ส่วนสูง 175 cm

เส้นทางบนสังเวียนลูกหนังของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

เด็กชาย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คนนี้นั้นมีการเริ่มต้นในการเล่นฟุตบอลจากการหัดเตะบอลกับทีมท้องถิ่นในบ้านเกิดของตัวเองในปี 2010 ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ได้ย้ายไปเป็นนักเตะระดับเยาวชนของทีม เอล โมดารุน ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่ที่ไกลจากเมืองที่เขาพักอาศัยอยู่เป็นอย่างมาก แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาหลักกับเด็กชายผู้มีความคลั่งไคล้ในกีฬาลูกหนังคนนี้สักเท่าไหร่ จึงได้มีการเดินตามความฝันต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งที่นี่เขาได้พัฒนาฝีมือและค้นหาเทคนิคของตัวเองขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถที่จะทะยานขึ้นมาเป็นนักเล่นในระดับเยาวชนจนติดทีมสำรอง ซึ่งเขาคนนี้นั้นนับว่าไม่ธรรมดาเพราะโชว์ฟอร์มโดดเด่นขึ้นมาแบบต่อเนื่องจนขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ฤดูกาล ที่เจ้าตัวได้อยู่ที่นี่ยังได้ถึง 11 ประตูจากการลงสนาม 38 นัด ซึ่งครั้งนั้นฝีมือและความเฉียบคมในการทำประตูก็ไปเข้าตาแมวมองของบาเซิล  ซึ่งเป็นทีมลูกหนังชื่อดังของลีกในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

การเดินทางสู่สวิตเซอร์แลนด์ของ 

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สามารถพัฒนาความสามารถอย่างไม่หยุดยั้งจนมีฝีเท้าอันยอดเยี่ยม ทำให้ในปี 2012 บาเซิ่ล ยอดทีมแห่ง ลีกสวิตเซอร์แลนด์จึงได้ดึงตัวเขาเข้ามาร่วมทีม ซึ่งเป็นการย้ายถิ่นฐานข้ามทะเลจากทวีปแอฟริกามาเป็นการค้าแข้งกับต้นสังกัดใหม่ในทวีปยุโรปที่มีสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ และแน่นอนว่ารูปแบบการซ้อมก็ต้องปรับเปลี่ยนไป ซึ่งเขาคนนี้เขาปรับตัวได้แต่ค่อนข้างที่จะมีปัญหาอยู่บ้าง ซึ่งด้วยความแข็งแกร่งเขาก็สามารถทำได้ในที่สุด ในช่วงแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ในบาเซิ่ลนั้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์  ก็ยังไม่สามารถที่จะปรับตัวและเข้าถึงรูปแบบการเลือกที่สมบูรณ์แบบได้จึงได้เป็นการเริ่มต้นเล่นกับทีมสำรองเสีย ซึ่งส่วนใหญ่และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจึงทำให้สามารถยกระดับและสามารถขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จในที่สุด แต่ก็ยังคงตำแหน่งตัวสำรองอยู่ในครั้งนั้น

ซึ่งกว่าที่ จะได้ลงสนามนั้นก็เป็นสิ่งที่ใช้เวลาพอสมควร ซึ่งการลงสนามในแมตแรกในเกมที่ บาเซิ่ล เอาชนะธูน ไปถึง 3 ต่อ 1 ในวันที่ 12 สิงหาคม 2012 ก็เกิดจุดเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงสลับกับตัวสำรองอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ผลงานที่ทำได้ค่อนข้างที่จะยอดเยี่ยมเลยทีเดียว จึงเข้าตาของแมวมองทางด้านซากฝั่งของสิงห์ Blue Chelsea ทีมยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกในที่สุด โดยหลังจากที่มีการซุ่มดูฟอร์มจากแมวมองของเชลซีในปี 2014 เชลซีก็ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์  มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ ต่อมาเขาก็เลยได้ย้ายฟากฝั่งมาเป็นลูกทีมในสังกัดสิงห์บุรีพร้อมทั้งยังเป็นนักเตะชาวอียิปต์คนแรกที่มาเยือนในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์อีกด้วย ในครั้งนั้นเขาได้เซ็นสัญญา 5 ปีครึ่งและสวมหมายเลข 15 ให้กับทีมเชลซีนั่นเอง การที่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตและเป็นความสำเร็จที่ก้าวกระโดดเป็นอย่างมากแต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งกองกลางนั้นมีความแข็งแกร่งยอดเยี่ยมอย่างมากทำให้เขาไม่สามารถที่จะเบียดลงไปเล่นในตำแหน่งตัวจริงของทีมได้เลย ซึ่งนอกจากการค้าแข้งที่นี่ในซีซั่นแรกเจ้าตัวได้ลงสนามเพียง 13 นัดเท่านั้น ทำให้โมฮาเหม็ด ซาลาห์  เลือกที่จะย้ายออกจากทีมเพื่อที่จะหาโอกาสในการลงสนามซึ่งในครั้งนั้นเชลซีก็ไม่ได้ขัดขวางเลยแม้แต่น้อยและปล่อยตัวให้เขาย้ายไปร่วมทีมกับฟิออเรนติน่าทีมลูกหนังชื่อดังในศึกกัลโช่ เซเรีย อา การย้ายมาที่ ออเรนติน่าเขาก็สร้างผลงานได้โดดเด่นเป็นอย่างมาก ซึ่งอยู่ที่นี่เพียงแค่ครึ่งฤดูกาลก็ขอย้ายทีมอีกครั้ง ซึ่งต่อมาก็ได้ย้ายไปร่วมทัพกับทีมโรม่าในที่สุด

ซึ่งการระเบิดฟอร์มการเล่นอย่างสุดฮอตและยิงไปถึง 15 ประตูกับ 7 แอสซิสจากการลงสนาม 42 เกมในทุก ๆ รายการนั้นกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขาคนนี้เป็นตัวหลักที่ทีมจะขาดก็ไปไม่ได้เลย ทำให้โรม่าไม่ลังเลที่จะซื้อขาดเขามาร่วมทีมได้ค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ต่อมาในซีซั่นที่ 2 ที่อยู่กับโรม่าเขาก็ยังระเบิดฟอร์มการเล่นอย่างสุดมันส์ยิงประตูไปสูงสุดถึง 19 ประตูกับอีก 15 แอสซิส จากการเล่น 41 นัดในทุกรายการจนได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรไปครองอีกต่างหาก

 

จุดเปลี่ยนของ ซาลาห์ ที่ทำให้หวนคืนกลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

ด้วยฝีเท้าและฝีมืออันยอดเยี่ยมของ โมฮาเหม็ด ก็นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่จะทำให้ชะตาชีวิตของเขาได้กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เมื่อเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันแห่งลิเวอร์พูลต้องการที่จะสร้างทีมใหม่ขึ้นมาเพื่อจะนำหงส์แดงกลับเข้าสู่ความยิ่งใหญ่ของเด็กอังกฤษให้ได้ กำลังมองหากลุ่มกำลังแนวรุกเพื่อเสริมศักยภาพของทีม ก็จำเป็นต้องตาโดนใจจับดาวยิงทีมชาติอียิปต์คนนี้ ซึ่งหวังจะสอยเข้ามาร่วมทีม ต่อมาในวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 ก็จะย้ายเข้ามาร่วมทีมอย่างเป็นทางการด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของสโมสรสูงถึง 42 ล้านปอนด์ ซึ่งอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาผู้นี้ตัดสินใจในการเลือกเข้ามาเล่นกับทีมหงส์แดงนั้นก็เพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งหลังจากเคยล้มเหลวกับการเล่นให้กับเชลซีว่าเขานั้นมีดีมากพอที่จะสู้ในศึกพรีเมียร์ลีกได้อย่างสบาย ๆ

 

ผลงานทีมชาติ  

ลงเล่นมาแล้วในหลาย ๆ ชุดเริ่มตั้งแต่ชุดอายุไม่เกิน 20 ปีชุดอายุไม่เกิน 23 ปีชุดโอลิมปิก

และทีมชาติชุดใหญ่ สำหรับเขาแล้วยังทำผลงานลงสนามได้สูงถึง 64 นัดและยิงไปถึง 41 ประตูเลยทีเดียว

 

เกียรติประวัติ 

บาเซิล

  • แชมป์ สวิสซูเปอร์ลีก 2012 ถึง 2013   2013-2014

 

เชลซี

  • แชมป์ พรีเมียร์ลีก  2014-2015
  • แชมป์ อีเอฟแอลคัพ 2014-2015

 

ลิเวอร์พูล

  • แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2019-2020
  • แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2018-2019
  • แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2019
  • แชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019

 


Next Post

ประวัติความเป็นมา เออร์ลิง ฮาแลนด์ จอมทำลายด่านหน้าสุดอันตรายแห่งแมนซิตี้

เออร์ลิง ฮาแลนด์ นั้นนับว่าเป็นจอมทำลายล้างกองหน้าที่หาตัวจับได้ยาก ซึ่งในตอนนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นดาวยิงคนใหม่ของ Manchester City เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนถึงปัจจุบันนี้ยังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกองหน้าเบอร์ 1 ของโลกลูกหนังอีกด้วย นี่คือหนึ่งในยอดนักเตะที่ไม่ว่าใครก็ต่างขยาดเมื่อจะได้เจอกับทีมของเขาและตัวของเขาเอง ข้อมูลนักเตะ เออร์ลิง ฮาแลนด์    เออร์ลิง ฮาแลนด์  หรือชื่อเต็มที่ว่า เออร์ลิง  เบราท์ ฮาแลนด์ ยอดนักบอลคนนี้นั้นเกิดวันที่ 21 กรกฎาคม ปี 2,000  ที่ลีดส์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร โดยจะถึงตอนนี้มีอายุ 22 ปี สัญชาตินอร์เวย์  ส่วนสูง 194 cm  ซึ่งความใหญ่โตและความคล่องแคล่วว่องไวดังกล่าวนี้เองทำให้เขาได้ดำรงตำแหน่งในการเล่นศูนย์หน้าของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งในขณะนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ขึ้นแท่นเป็นจอมทำลายล้างและเป็นดาวยิงตัวฉกาจที่ไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จัก เส้นทางลูกหนัง เออร์ลิง ฮาแลนด์        เออร์ลิง ฮาแลนด์  หรือเมื่อครั้งยังเป็นเด็กน้อย หรือถ้าหากใครเป็นแฟนบอลรุ่นเก่าก็คงจะคุ้นเป็นที่สุดเพราะนี่คือลูกชายสุดที่รักของ ฮัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ […]

You May Like