ประวัติ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดนักเตะจากคนเก่งจากต่างดาว

BALLVAR

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ มีข่าวหนึ่งที่คนติดตามฟุตบอลบอกเลยว่าต้องติดตามกันอย่างชั้นชิดเลยนั่นก็คือ ข่าวการขอย้ายทีมของ ลิโอเนล เมสซี่ ชายที่ถือว่าเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของไอดอลฟุตบอลของยุคนี้ เรื่องข่าวก็คงจะต้องติดตามกันต่อไป แต่เรานึกไม่ออกจริงๆ ว่า บาร์เซโลน่าที่ไม่มีเค้ามันจะมีสภาพอย่างไร ทีนี้เรื่องข่าวก็ว่ากันไป เราเลยขอเกาะกระแสข่าวตรงนี้มาเล่าเรื่องราวของเค้าที่จะพูดเรื่องฟุตบอลให้น้อยที่สุด

 

การเกิดของ เมสซี่ ที่อันตราย

ชายคนนี้ต้องบอกเลยว่า เปรียบเสมือนพระเจ้าส่งมาเกิดทีเดียว อะไรที่ทำให้เราว่าแบบนั้น เราจะพาทุกคนย้อนไปในช่วงที่เค้าเกิด จากประวัติและการสัมภาษณ์คนในครอบครัว เค้าเล่าว่าตอนที่จะคลอด เมสซี่ นั้นมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นนั่นก็คือ อาการทารกกลับหัวผิดทางอาการแบบนี้บอกลเยว่าโอกาสที่จะรอดชีวิตต่ำมาก (ยังไม่นับเรื่องการแพทย์เมื่อ 33 ปีที่แล้วด้วยนะ) เพื่อเป็นการช่วยเหลือทารก และแม่ไปพร้อมกัน แพทย์จึงเสนอว่าต้องทำคลอดก่อนกำหนด กับใช้คีมหนีบหัวออกมาแทนที่การเบ่งตามปกติ แต่คุณแม่ของเค้าไม่ยอมกลับเลือกที่จะคลอดตามปกติ เบ่งตามธรรมชาติ(เนื่องจากไม่อยากให้ลูกของเธอมีรอยคีมหนีบที่หัวหรือแก้ม) แล้วก็เหมือนพระเจ้ามาช่วยทารก เลโอ คนนี้ให้คลอดมาได้อย่างปลอดภัย

เมสซี่และครอบครัว

สำหรับเค้าถือว่าเป็นเด็กชายที่เกิดมาพร้อมท่ามกลางความรัก ความอบอุ่นของครอบครัว เรามาว่ากันที่เรื่องราวครอบครัวของเค้ากันบ้าง คุณพ่อของเค้าเป็นช่างในโรงงาน และเป็นคุณพ่อนักฟุตบอลด้วย  (เขาเป็นแรงบันดาลให้กับ เมสซี่ และพี่ชายในเรือ่งการเล่นฟุตบอลในเวลาต่อมา) การเล่นฟุตบอลของคุณพ่อจะเป็นการเล่นในระดับสมัครเล่น แบบซันเดย์ลีคที่เล่นแถวบ้านเป็นทีมคุณพ่อในระแวกนั้น ซึ่งการเป็นนักฟุตบอลซันเดย์ลีคทำให้เมสซี่ได้เห็นคุณพ่อเล่นฟุตบอลแบบชิดขอบสนามและติดตามไปด้วยในหลายสนามด้วย

บุคลิกในวัยเด็กของเมสซี่

Su primer equipo, Grandoli. A los cuatro años, parado 2ª (d) MESSIde niño – 20050606

ความพิเศษของ เมสซี่ ที่เราเชื่อว่าการที่เค้าเก่งกาจในเชิงฟุตบอลนั้นมาจากความประสงค์ของพระเจ้าก็คือ เค้าเป็นเด็กที่มีนิสัย มีคาแรกเตอร์แปลกมากอย่างหนึ่งนั่นก็คือ ตอนเด็กเค้าเป็นคนที่ชอบวัตถุทรงกลมมาก ไม่ว่าจะเป็น ลูกแก้ว หรือของอื่น แล้วเค้าจะมีความรู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจเวลาที่ของทรงกลมของเค้าหายไป นั่นเหมือนกับเป็นสัญญาณของพระเจ้าเลยว่า เด็กคนนี้เกิดมาเพื่อวัตถุทรงกลมที่ชื่อว่า ฟุตบอลเท่านั้น

อีกหนึ่งคาแรกเตอร์ ที่เราต้องเข้าใจเข้าด้วย นั่นก็คือ ตอนเด็ก เมสซี่ เป็นชายที่เข้าสังคมไม่ค่อยเก่งเท่าไร เค้าเงียบขรึม พูดน้อย จนบางครั้งอาจจะเหมือนหายตัวไปในวงสนทนา หรือ วงสังคมนั้นได้เลย มีเรื่องเล่าว่าสมัยที่เค้าติดรถเพื่อนคุณพ่อที่ส่งทีมฟุตบอลเยาวชนท้องถิ่นไปแข่ง พอขึ้นรถทุกคนจะต้องถามเสมอว่า เมสซี่ขึ้นรถมาหรือยัง แล้วเจ้าตัวก็จะตอบว่ามาแล้ว เป็นการยืนยันว่าออกรถได้

ใครคือคนพาเมสซี่ เข้าวงการ

เราอาจจะนึกภาพของเมสซี่ในช่วงสีเสื้อของบาร์เซโลน่า หรือ อาจจะจำได้บ้างว่า เค้าแจ้งเกิดจากสโมสร นีเวลส์ โอลด์บอย แต่รู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนที่จูงมือพาเมสซี่ เข้าวงการฟุตบอล คำตอบก็คือ คุณย่าของเค้านั่นเอง ย้อนกลับไปในตอนเด็ก คุณย่าจะเป็นคนพาเมสซี่ไปดูคุณพ่อของเค้าเล่นฟุตบอล รวมถึงพาเมสซี่ไปเล่นฟุตบอลด้วย จุดแจ้งเกิดก็คือ คุณย่าเป็นคนพาเมสซี่ไปเล่นเกมระดับสมัครเล่นเยาวชนของทีม กรานโดลี ที่กำลังแบ่งข้างเล่นกันอยู่แต่คนไม่พอ ก็เป็นคุณย่าที่แหละบอกว่า เมสซี่เล่นได้ แล้วจากนั้นตำนานก็เริ่มต้นขึ้น

ช่วงที่ ลิโอเนล เมสซี่ เล่นให้กับ บาร์เซโลน่า

เมสซี่ ถือว่าเป็นดาวเตะอีกหนึ่งคนของโลกฟุตบอลที่มีความผูกพันกับบาร์เซโลน่าอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเค้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากอาร์เจนติน่าก็มาเล่นให้กับบาร์เซโลน่าอยู่ทีมเดียวเลย ซึ่งตลอดเวลาที่เค้าเล่นให้กับบาร์ซ่านั้นมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป เพื่อเป็นการเคารพตำนานคนนี้ เราจะมาเล่าเรื่องราวของเค้าในสีเสื้อบาร์เซโลน่า ในช่วงปี 2002-2006 ก็แล้วกัน

จากอาร์เจน สู่ คาตาลัน

เอาจริงๆ แล้ว  เกือบจะไม่ได้มาเล่นให้กับบาร์เซโลน่าแล้วด้วยซ้ำ เนื่องจากว่าตอนที่เค้ากำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่นนนั้นเค้าเจอปัญหาใหญ่เลยนั่นก็คือ ร่างกายไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร ทำให้ร่างกายแคระแกรน เล็กเกินไปสำหรับการเล่นกีฬาเข้าปะทะอย่างฟุตบอล ทางแก้ก็คือการฉีดฮอร์โมนเข้าสู่ร่างกายเพื่อทำให้ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย การฉีดฮอร์โมนเป็นการใช้ค่าใช้จ่ายที่แพงมาก นั่นทำให้หลายสโมสรที่มีความสนใจเค้าถึงกับถอยกรูดไม่เอาด้วย มีแต่บาร์เซโลน่าที่ยังยืนยันว่าจะเอาเมสซี่พร้อมจ่ายค่าฮอร์โมนด้วย ไม่เท่านั้น ยังหาบ้าน และงานให้กับพ่อของเมสซี่ เพื่อตั้งตกรากได้อย่างสบายใจอีกด้วย นั่นจึงเป็นจุดกำเนิดของเมสในสีเสื้อบาร์ซาด้วย

การพัฒนาของ เมสซี่ แบบก้าวกระโดด

นักเตะเยาวชนหลายคน แม้ว่าจะเคยโดดเด่นมากในบริบทสภาพแวดล้อมของตัวเอง แต่พอมาอยู่ที่ บาร์ซา หลายคนก็โชว์ฟอร์มไม่ออก หรือ โดนคนอื่นบดบังจนต้องย้ายออกไป แต่ไม่ใช่กับเมสซี่เลย แม้ว่าจะบริบทแตกต่างกัน การแข่งขันที่สูงขึ้น ยากขึ้น มากกว่าเดิมหลายเท่า แต่เมสซี่ก็แสดงให้เห็นว่าเค้านั้นมีความโดดเด่นกว่าคนอื่นแบบหลายช่วงตัว เมสซี่เป็นนักเตะที่ระดับเยาวชนไม่กี่คนในประวัติศาสตร์ที่ใช้เวลาเพียงไม่นานในชุดเยาวชน แล้วก็ก้าวมาขึ้นสู่ชุดสำรองได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว (ปกตินักเตะระดับเยาวชนต้องใช้เวลาหลายปี แต่เมสน้อยกว่านั้น) จุดที่จะเล่าต้องเริ่มจากการที่เจ้าตัวได้ขึ้นไปเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ชุดบี (ชุดสำรอง) แล้วทำไปถึง 5 ประตู จาก 10 เกมแรกที่ลงสนาม ผลงานระดับนี้ทำให้โอกาสที่จะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เปิดกว้างมาก บวกกับผลงานการซ้อมของเค้าเวลาขึ้นไปสู่ทีมชุดใหญ่ก็ออกมาดีด้วย

วันเดบิวชุดใหญ่

ตอนนั้นแฟนบอลในคาตาลันเริ่มรู้จักเมสซี่กันอย่างดีในฐานะเจ้าหนูมหัศจรรย์คนต่อไป พวกเค้ารู้ดีว่าเมสซี่จะได้ลงเล่นในคัมป์นูในฐานะนักเตะชุดใหญ่แน่นอน ว่าแต่เมื่อไรเท่านั้นเอง แล้ววันนั้นก็มาถึงในปี 2004 เกมที่เจอกับเอสปันญอล เมสซี่ ก็ได้โอกาสเปิดตัวเดบิ้ว กับทีมชุดใหญ่ในเกมนั้นจากการลงไปแทน โรนัลดินโญ่ สตาร์หมายเลข 1 ของทีมในตอนนั้น

เรื่องราวของเมสซี่ในเกมแรกอาจจะไม่เท่าไร แต่เกมสำคัญอยู่ที่เกมเจอกับ อัลบาเซเต้ เกมนั้น เมสซี่ได้ลงสนามต่อเนื่องโชว์ทักษะการเลี้ยงบอลอันแพรวพราวจนทำให้อีกฝ่ายต้องกุมขมับเลย แม้ว่าเค้าจะชิพข้ามหัวเข้าไปแต่โดนจับล้ำหน้าไปก่อนก็จริง แต่สุดท้ายเค้าก็มาทำได้จากการไหลบอลของ โรนัลดินโญ่นั่นเอง พอยิงได้เมสซี่ได้ไปกระโดดขี่หลังดินโญ่ จนกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ของ บาร์เซโลน่า ในเวลาต่อมา

ซีซั่น 2005-2006

หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ นั่นทำให้ซีซั่น 2005-2006 เมสซี่ ได้กลายเป็นนักเตะของทีมบาร์เซโลน่าชุดใหญ่ในทันที พร้อมกับใส่เสื้อเบอร์ 19 และยึดตัวจริงทางด้านขวาเล่นร่วมกับ โรนัลดินโญ่ และ ซามูเอล เอโต้ไดอย่างน่าทัดเทียม จบซีซั่นดังกล่าวด้วยถ้วยลาลีก้า และ แชมปเปี้ยนลีคอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับเตรียมสร้างตำนานบทต่อไปไม่รู้จบ

ลิโอเนล เมสซี่ ช่วงที่เล่นให้กับทีมชาติ อาร์เจนตินา

เมสซี่ หากจะบอกว่าเค้าเป็นสุดยอดนักเตะอันนี้ไม่เถียงเลย เค้าได้แชมป์มาหมดทุกอย่างแล้วในระดับสโมสรเท่าที่จะคว้ามาได้ไม่ว่าจะเป็นเกมลีค เกมบอลถ้วยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ หากจะถามว่าสุดยอดนักเตะคนหนึ่งตลอดกาลโลกฟุตบอลเค้าขาดอะไรคำตอบคงเป็นโทรฟี่ถ้วยแชมป์ระดับเมเจอร์ในนามทีมชาติที่ต้องบอกว่า มันคือเงื่อนไขสุดท้ายที่เค้าไม่สามารถทำได้สักที เรามาเล่าเรื่องราวอันน่าเสียดายของเมสซี่กับสีเสื้อทีมชาติกัน

ชายที่ถูกลืมจากทีมชาติ

เมสซี่ กับทีมชาติต้องบอกว่า มันเหมือนกับทั้งสองอย่างไม่ได้ถูกขีดเส้นให้คู่กันมาแต่แรกแล้ว เมสซี่เป็นนักเตะอีกคนหนึ่งที่เหมือนจะตกสำรวจจากทีมชาติ เพราะว่าเค้าเป็นนักเตะที่ไม่ได้ติดทีมชาติระดับเยาวชนมาเล่นทั้งรุ่น u13, u15, u17 อาจจะเป็นเพราะว่าในเวลานั้นเค้าอาจจะยังไม่ดังและเป็นที่ประจักษ์ในสายตามากนัก ยังไม่รวมถึงการข้ามน้ำข้ามทะเลมายุโรปแล้วด้วย กว่าจะติดทีมชาติก็ต้องรอถึงรุ่น U20 โน่นเลยแล้วที่ติดก็มาตอนที่เค้าเริ่มให้กับทีมชุดใหญ่ของบาร์ซาไปแล้วด้วย ทางสมาคมฟุตบอลอาร์เจนจึงรู้จักแล้วเชิญไปเล่นทีมชาติ (น่าสนใจว่าหากช้ากว่านี้ เมสซี่อาจจะเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ให้กับประเทศอื่นไปแล้วด้วย)

การติดทีมชาติครั้งแรก

จากที่เล่ามากว่า เมสซี่ จะได้ติดทีมชาติครั้งแรกก็ต้องปี 2005 ในวัย 20 ปีเลยทีเดียว ตอนนั้นทางสมาคมฟุตบอลอาร์เจนได้ทำหนังสือขอตัวไปยังทีมบาร์เซโลน่าต้นสังกัด แต่มีเรื่องขายหน้าตรงที่ว่า สมาคม เขียนชื่อนักเตะผิดจาก messi เป็น mecci (อ่านเหมือนกันแต่เขียนต่างกัน) แต่สุดท้ายเค้าก็ปล่อยให้ไปร่วมทีม โดยทัวร์นาเมนต์ที่เมสซี่ได้ลงเล่นก็คือ ฟุตบอลชิงแชมป์อเมริกาใต้รุ่น U20 ตอนนั้นเมสซี่เล่นกับ ลูคัส บิเกลีย, ปาโบล ซาบาเรต้า , เอเซเกล ลาเวซซี่ ผลงานก็คือข้าชิงที่ 3 พร้อมคว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลกระดับ U20 ที่ฮอลแลนด์ ซึ่งในเวทีการแข่งขันครั้งนี้เมสซี่แสดงแสนยานุภาพ พาอาร์เจนติน่า คว้าชัยในศึกเยาวชนโลกแบบน่าประทับจนกลายเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในเวลานั้นเลย ( ยิ่งตบบราซิลมาได้ในรอบชิง นี่ยิ่งทำให้แฟนบอลบ้านเกิดสะใจเป็น 3 เท่าเลยทีเดียว )

ก้าวสุดท้ายที่ไปไม่ถึง

อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของเมสซี่ในสีเสื้อทีมชาติ ยังสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาได้เหรียญทองโอลิมปิคอีกครั้งในปี 2008 แต่หลังจากนั้นความสำเร็จในระดับถ้วยแชมป์ของทีมชาติ กลายเป็นก้าวที่ไม่ไกล แต่ก้าวไม่ถึงตลอด เมื่อเค้าสวมใส่ทีมชาติ เค้าเหมือนกลายเป็นความหวังของคนทั้งชาติแต่เมสซี่ก็ทำไม่ได้ มักจะมีเหตุการณ์บางอย่างในสนามที่ทำให้ทุกอย่างจบลงแบบน่าเสียดายไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง รองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2014 รองชนะเลิศฟุตบอลระดับทวีป ( ลาตินอเมริกา )ถึง 3 ครั้ง ปี 2007 , 2015 และ 2016 ได้อันดับ 3 ในรายการนี้อีกครั้งเมื่อปี 2019 ซึ่งความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เมสซี่ แทบจะไม่เกี่ยวเลยด้วยซ้ำ( เพื่อนยิงพลาด, เพื่อนยิงจุดโทษไม่เข้า, กองหลังเล่นพลาด ) จนบางครั้งมันก็เหมือนเป็นพรจากพระเจ้าที่มอบความสุดยอดพรสวรรค์ให้กับเมสซี่เป็นชายที่มีความเก่งกาจในเชิงลูกหนังมากที่สุดคนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลก แต่ก็ใส่ความต้องสาปให้ไม่ประสบความสำเร็จในเกมทีมชาติ ซึ่งเราก็เชื่อว่าหากครั้งต่อไปเค้ายังทำไม่ได้อีก เรื่องนี้มันก็คงกลายเป็นสิ่งที่ค้างคาใจเค้าตลอดไปในฐานะนักฟุตบอล

ด้านชีวิตส่วนตัวของ Lionel Messi เช่น เรื่องเกี่ยวกับคนในครอบครัว งานอื่นๆเรื่องราวเกี่ยวกับ ลิโอเนล เมสซี่ หากจะเล่าถึงผลงานในสนามเชื่อว่า หลายคงคงได้เห็นกันไปบ้างแล้ว ว่าเค้าเคยทำอะไรมาบ้างในสีเสื้อของบาร์เซโลน่า และ สีเสื้อทีมชาติอาร์เจนติน่า คราวนี้เราขอเปลี่ยนบรรยากาศเรามาฟังเรื่องราวของเมสซี่เกี่ยวกับคนในครอบครัวกันบ้างว่ามีประเด็นอะไรน่าสนใจที่เราอาจจะเคยรู้หรือไม่เคยรู้มาก่อน

พ่อแม่ของเมสซี่

เราเชื่อว่าเด็กที่เกิดมาทันเห็นเมสซี่เตะบอล ย่อมจะมีเค้าเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลเวลาลงสนามแต่คำถามก็คือ ใครเป็นแรงบันดาลใจให้เมสซี่เตะฟุตบอล ตรงนี้เราต้องยกให้กับคุณพ่อและคุณแม่ของเค้าเลย พ่อของเมสซี่มีชื่อว่า ฆอร์เฆ เมสซี่ ทำงานเป็นพนักงานในโรงงานและเล่นฟุตบอลระดับสมัครเล่น แบบซันเดย์ลีคแถวบ้าน ซึ่งตอนที่คุณพ่อเล่นฟุตบอลเป็นเมสซี่นี่แหละที่ได้นั่งชิดติดขอบสนามได้เห็นการเล่นแบบชัดๆจนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอล ส่วนคุณแม่เซเลีย มาริอา กูซิตินิ เป็นคนทำความสะอาด(แม่บ้าน) เมสมีพี่น้องอีก 3 คนก็คือ โรดริโก้ และ มาเตียส ( พี่ชาย ) และน้องสาวหนึ่งคนชื่อว่า มารีอา ซอล นอกจากนั้น เมสซี่ยังมีลูกพี่ลูกน้องอีก 2 คนที่เป็นนักฟุตบอลเหมือนกันก็คือ มักซี่ เล่นอยู่ในลีคของประเทศปารากวัย และ เอ็มมานวยเอล เบียนกุชชี เล่นให้กับกิโรน่า ประเทศสเปน ลีครองลงไปเยอะคงไม่มีโอกาสเจอเมสซี่ในสนามแน่นอน

เพื่อนซี้ในสนามฟุตบอล

เมสซี่ ถ้าใครไม่รู้เราจะบอกว่าคาแรกเตอร์ของเค้าเป็นเด็กที่ขี้อาย เงียบขรึม พูดไม่เก่ง และเข้าสังคมไม่ค่อยเก่งมากนัก ในช่วงเวลาที่เค้าต้องปรับตัวจากการเดินทางมาเล่นที่แคว้นคาตาลันนั้น ต้องบอกว่าการมีเพื่อนช่วยให้ผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนั้นไปได้ สำหรับเพื่อนคนสำคัญของเมสซี่ในช่วงเวลาดังกล่าวก็คือ เชส ฟาเบรกัส และ เคราร์ด ปิเก้ ทั้งสองคนรวมถึงเมสซี่เข้าขากันดีมากทั้งในและนอกสนามเลยทีเดียว นั่นทำให้ผลงานของบาร์ซ่าในระดับเยาวชนพุ่งกระฉูดมาก มีเรื่องเล่าว่าหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในการซ้อมตอนเช้า ทั้งสามจะซ้อมยิงฟรีคิกกันต่ออีก

ชีวิตครอบครัว

เมสซี่ ถือว่าเป็นดาวเตะอีกคนหนึ่งที่มีชีวิตนอกสนามไม่หวือหวาเลย ( เราเชื่อว่านี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เค้ามีฟอร์มอันยอดเยี่ยมได้ ) เรื่องราวรักใคร่แทบจะไม่เห็นบนหน้าสื่อ ข่าวคราวกับสาวๆ ก็แทบจะไม่ค่อยมีเลยด้วยซ้ำ เรื่องของความรักนั้นมีเพียงแค่ครั้งเดียวที่เมสซี่พูดถึงก็คือ อันโตเนลา โรกูโซ ภรรยาคนปัจจุบันของเค้านั้นเอง ในเรื่องนี้เมสซี่เคยเล่าว่าภรรยาเป็นชาวโรซาริโอเหมือนกัน เมสซี่รู้จักเธอมาตั้งแต่สมัยเธอยังเด็ก ก่อนจะมาคบกันจริงจังตอนปี 2008 จนกระทั่งแต่งงานในที่สุด ( ขอเม้าท์ต่อว่างานแต่งของเมสซี่และ โรกูโซ สื่อยกให้เป็นงานแต่งแห่งปีเลยก็ว่าได้ ฉลองกันยันเช้าของอีกวันยังไม่นับคนติดตามบนโลกออนไลน์อีกหลายแสนคนทีเดียว )

หลังจากแต่งงานแล้ว ชีวิตของเมสซี่ก็แทบจะไม่มีเรื่องราวการไปเที่ยวไนต์คลับ ข่าวเกี่ยวกับสาวๆ ข่าวเกี่ยวกับการทะเลาะระหว่างตัวเค้าและภรรยาอีกเลย เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าเค้าเก่งจริง ทีนี้หลังจากแต่งงานได้สักระยะ เมสซี่ก็ได้บุตรชายคนแรกในปี 2012 ชื่อว่า เตียโก ก่อนจะได้ลูกคนที่สองในปี 2015 และ คนที่สามในปี 2017

เกียรติประวัติ

สโมสร

บาร์เซโลนา

-ลาลิกา: 10

2004–05, 2005–06, 2008–09, 2009–10, 2010–11, 2012–13, 2014–15, 2015–16, 2017–18, 2018–19

-โกปาเดลเรย์: 6

2008–09, 2011–12, 2014–15, 2015–16, 2016–17, 2017–18

-ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา: 8

2005, 2006, 2009, 2010, 2011, 2013, 2016, 2018

-ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 4

2005–06, 2008–09, 2010–11, 2014–15

-ยูฟ่าซูเปอร์คัป: 3

2009, 2011, 2015

-ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัป: 3

2009, 2011, 2015

อาร์เจนตินา

-ฟุตบอลโลก: รองชนะเลิศ (1): 2014
โกปาอาเมริกา:

-รองชนะเลิศ (3): 2007, 2015, 2016
-อันดับสาม (1): 2019

ฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน: ชนะเลิศ (1): 2008
ฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี: ชนะเลิศ (1): 2005
ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์อเมริกาใต้: ชนะเลิศ (1): 2005

เกียรติประวัติส่วนตัว

รางวัลระดับนานาชาติ

-ฟีฟ่าบาลงดอร์ (FIFA Ballon d’Or): 5

2010, 2011, 2012, 2015, 2019

-บาลงดอร์ (Ballon d’Or): 1

2009

-นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี (FIFA World Player of the Year): 1

2009

-ฟิฟโปรเวิลด์ XI (FIFPro World XI): 11

2007, 2008, 2009, 2010, 2011, 2012, 2013, 2014, 2015, 2016, 2017

-นักฟุตบอลแห่งปีของฟิฟโปร: 2

2009, 2010

-นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งฟุตบอลโลก (FIFA World Cup ; Golden Ball): 1

2014

-นักฟุตบอลแห่งปีของ เวิลด์ซอกเกอร์ (World Soccer ; World Player of the Year): 4

2009, 2011, 2012, 2015

-รางวัลลูกบอลทองคำ คลับเวิลด์คัป (FIFA Club World Cup ; Golden Ball): 2

2009, 2011

-รางวัลลูกบอลเงิน คลับเวิลด์คัป (FIFA Club World Cup ; Silver Ball): 1

2015

-รางวัลรองเท้าทองคำ คลับเวิลด์คัป (FIFA Club World Cup ; Golden Boot): 1

2011

-GSA นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี (Globe Soccer Awards ; Best Player Of The Year): 1

2015[296]

-IFFHS ผู้ทำประตูยอดเยี่ยมแห่งปี (IFFHS World’s Best Top Goalscorer): 2

2011, 2012

-IFFHS ผู้ทำประตูสูงสุดแห่งปี (IFFHS World’s Best Top Division Goalscorer): 2

2012, 2013

-IFFHS เพลย์เมกเกอร์ยอดเยี่ยม (IFFHS World’s Best Playmaker): 2[297]

2015, 2016[298]

-ESPY นักกีฬานานาชาติยอดเยี่ยม (ESPY Award for Best International Athlete): 2

2012, 2015

-Marca Leyenda รางวัลตำนานแห่งมาร์กา (นักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม) (Marca Legend Award): 1

2009

-L’Équipe รางวัลนักกีฬาอาชีพนานาชาติยอดเยี่ยม (L’Équipe Champion of Champions): 1[299]

2011

-La Gazzetta Dello รางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม (La Gazzetta Dello Sport Sportsman of the Year): 1

2011

-CBS รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี (CBS Sports World Soccer Player of the Year): 1

2015

-FOXSoccer.com’s รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปี (FOXSoccer.com’s Player of the Year): 1

2015

-Sports Illustrated #1 All-time Ultimate Soccer Draft (published 2012)
World Soccer Greatest XI of All Time (published 2013)

รางวัลระดับทวีป

ทวีปยุโรป

-นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป (UEFA Best Player in Europe Award): 2

2011, 2015

-รางวัลรองเท้าทองคำยุโรป (European Golden Shoe): 4

2009-10, 2011-12, 2012-13, 2016-17

-นักฟุตบอลแห่งปีของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Club Footballer of the Year): 1

2009

-กองหน้าตัวรุกแห่งปีของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League Best Forward): 1

2009

-นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของทวีปยุโรป (El País Best Player in Europe Award): 4

2009, 2010, 2011, 2012

-ผู้เล่นแห่งนัดในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League Final; Man of the Match): 1

2011

-ผู้เล่นแห่งนัดในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกคัดเลือกโดยผู้ชื่นชอบ (UEFA Champions League Final;ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด(Fan Choice)): 2

2009, 2011

-ทีมแห่งปีของยุโรป (Best XI) (UEFA Team of the Year): 8

2008, 2009, 2010, 2011, 2012, 2014, 2015, 2016[300]

-ทีมแห่งปีของยุโรป (Best XI) (European Sports Media Team of the Year): 8

2006, 2008, 2009, 2010, 2011, 2012, 2013, 2015

-Onze d’Or: 3

2009, 2011, 2012

-UEFA Ultimate Team of the Year (published 2015)
-UEFA Champions League Team of the Season: 2014–15
-UEFA Goal of the Year: 2007
-UEFA Goal of the Season: 2014–15 (Messi v Bayern), 2015–16 (Messi v AS Roma)

-UEFA Champions League Goal of the Season: 2014–15
-UEFA Champions League Genius Moment of the Season: 2014–15

ทวีปอเมริกาใต้

-โกปาอาเมริกา ทีมแห่งการแข่งขัน (Copa América Team of the Tournament) 3

2011, 2015, 2016

-โกปาอาเมริกา นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน (Copa América Best Player of the Tournament): 1

2015 (ปฏิเสธ)

-L’Équipe #3 Top 50 South-American Footballers in History (published 2015)

รางวัลระดับประเทศ

-ผู้ยิงประตูสูงสุดในลาลิกา (Pichichi Trophy): 3

2010, 2012, 2013

-LFP นักเตะยอดเยี่ยมแห่งลาลิกา (LFP Award for Best Player): 6

2009, 2010, 2011, 2012, 2013, 2015

-LFP กองหน้ายอดเยี่ยมแห่งลาลิกา (LFP Award for Best Forward): 7

2009, 2010, 2011, 2012, 2013, 2015, 2016

-LFP ทีมยอดเยี่ยมแห่งลาลิกา (Best XI) (LFP Team of the Season / The 2014–15 Liga BBVA Ideal XI): 1

2014-15

-LFP นักฟุตบอลลาลิกายอดเยี่ยมประจำเดือน (La Liga Player of the month): 2

January 2016, April 2017

-นักฟุตบอลลาลิกาแห่งปี (Trofeo Alfredo di Stéfano): 4

2009, 2010, 2011, 2015

-Trofeo EFE นักฟุตบอลกลุ่มประเทศ Ibero-American ยอดเยี่ยมแห่งปี (Trofeo EFE for Best Ibero-American Player) : 5

2007, 2009, 2010, 2011, 2012

-Don Balón นักฟุตบอลต่างชาติยอดเยี่ยมแห่งลาลิกา (Don Balón Award for Best Foreign Player): 3

2007, 2009, 2010

-Don Balón Team of the Decade (published 2010)

-Olimpia Awards นักฟุตบอลแห่งปีของอาร์เจนตินา (Silver Olimpia Awards ; Footballer of the Year of Argentina): 9

2005, 2007, 2008, 2009, 2010, 2011, 2012, 2013, 2015

-Olimpia Awards นักกีฬาแห่งปีของอาร์เจนตินา (Golden Olimpia Awards ; Sportsperson of the Year of Argentina): 1

2011

รางวัลระดับเยาวชน/ดาวรุ่ง

-นักฟุตบอลยุโรปอายุไม่เกิน 21 ปี แห่งปี given by sports journalists (Golden Boy Award): 1

2005

-นักฟุตบอลยุโรปอายุไม่เกิน 21 ปี แห่งปี (Bravo Award): 1

2007

-นักฟุตบอลดาวรุ่งแห่งปีของฟิฟโปร (FIFPro Young Player of the Year): 3

2006, 2007, 2008

-นักฟุตบอลดาวรุ่งพิเศษแห่งปีของฟิฟโปร: 2

2007, 2008

-นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งฟุตบอลโลกอายุไม่เกิน 20 ปี (FIFA World Youth Championship Golden Ball): 1

2005

-ผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลกอายุไม่เกิน 20 ปี (FIFA World Youth Championship Golden Boot): 1

2005

-South American U-20 Championship รองเท้าเงิน (South American U-20 Championship ; Silver Boot): 1

2005

-โกปาอาเมริกา นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งรายการแข่งขัน (Copa América Young Player of the Tournament): 1

2007

-นักฟุตบอลดาวรุ่งแห่งปีของ เวิลด์ซอกเกอร์ (World Soccer Young Player of the Year): 3

2006, 2007, 2008

https://www.instagram.com/p/CBVm3-JiMPx/?utm_source=ig_web_copy_link

แหล่งข้อมูล

IG : leomessi

อ้างอิง

https://th.wikipedia.org/wiki/ลิโอเนล_เมสซิ

Next Post

ประวัติ เซร์คิโอ รามอส กองหลังสุดโหดที่เก่งที่สุดในโลก

รีล มาดริด ถือว่าเป็นทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงนักเตะบ่อยมาก ตามประสาคนมีเงิน เกียรติยศ ชื่อเสียง และทุกอย่างที่นักเตะคนหนึ่งอยากได้ จึงไม่แปลกที่ใครก็อยากจะมาเล่นด้วย แต่การมาเล่นของนักเตะหลายคนมาแล้วก็ไป ไม่ค่อยจะเป็นที่จดจำมากนัก มีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับสัญลักษณ์ของทีมได้อย่างยาวนาน คนหนึ่งที่ทำได้ในช่วงเวลาที่เราดูบอลมีเพียงแค่สามคน หนึ่งคือซีดาน สองคือคาซิยาส และสาม เซร์คิโอ รามอส ที่ยังเล่นอยู่ในทีมอยู่ตอนนี้ เรามาเล่าเรื่องราวของกองหลังตัวแกร่งคนนี้กัน ข้อมูลส่วนตัว กองหลังตัวเก่งคนนี้ มีข้อมูลแบบคร่าวๆ ว่า ชื่อเต็มคือ เซร์คิโอ รามอส การ์ซิอา เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1986 ปัจจุบันอายุ 34 ปี เกิดที่เมืองกามัส ประเทศสเปน ส่วนสูง 1.83 เมตร เล่นตำแหน่งเซนเตอร์ แบ็ค สำหรับชายคนนี้ต้องบอกก่อนว่าในสนามเค้าเป็นนักเตะที่แข็งแกร่งทั้งทางร่างกายและจิตใจ เค้าจะไม่ยอมให้ใครมาผ่านบอลเพื่อทำประตูให้ได้ง่ายนัก แต่นอกสนามเค้าถือว่าเป็นนักฟุตบอลที่รักครอบครัว รักสโมสร ช่วยเหลือสังคมเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมเสมอ เส้นทางฟุตบอลระดับเยาวชน รามอส เป็นเด็กสเปนอีกคนหนึ่งที่เดินทางบนเส้นทางฟุตบอลตามระดับขั้นของเค้าเลย เค้าเริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก […]

You May Like