ชื่อเต็ม มาคัส แรชฟอด เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1997 ปัจจุบันอายุ 24 ปี สถานที่เกิดเมือง Manchester ประเทศอังกฤษ มีส่วนสูง 180 ซม. เขานั้นนับว่าเป็นศูนย์หน้ากึ่งปีกที่มีความเก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของสุดยอดทีมแห่ง Old Trafford อย่าง Manchester United เลยทีเดียว โดยในปัจจุบันนี้ก็ยังมีความโดดเด่นและจัดได้ว่าเป็นขุมกำลังสำคัญที่สุดของกองทัพผีแดงในการเข้ามาฟาดแข้งในทุก ๆ นัด โดยแน่นอนว่าทุกการลงสนามของเขามักจะสามารถที่จะเปลี่ยนเกมได้ทุกเมื่อ ซึ่งสิ่งนี้หลาย ๆ คนอาจจะสังเกตได้ว่าเขามักจะสร้างเสียงเฮฮาให้กับเหล่าสาวกได้เป็นอย่างดี โดยนี่เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีประวัติส่วนตัวที่น่าสนใจและเป็นแข้งระดับประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่าที่สุด ด้วยอาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในสมบัติที่ทางหลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์ชาวฮอลแลนด์ที่มีการมอบไว้ให้กับ Manchester United หลังจากที่ก้าวเข้ามาเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2015 กันเลยทีเดียว ซึ่งแท้ที่จริงแล้วตัวของเขาเองยังอยู่กับทีมนี้มาตั้งแต่ปี 2005 หรือตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น จนได้สัญญาฉบับอาชีพครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปีซึ่งนี่นับว่าเป็นประวัติที่ไม่ธรรมดา สำหรับหนูน้อยคนเก่งกับการก้าวเดินที่เข้มแข็งเดินตามฝันได้อย่างไม่มีหลงทางเลยทีเดียว

ฮีโร่ที่แก้ปัญหากองหน้าปืนฝืดของแมนยูไนเต็ด

มาคัส แรชฟอด คนนี้นั้นนับว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่แก้ปัญหาแดนหน้าที่ไม่สามารถยิงประตูได้แม้แต่ครั้งเดียวของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในระหว่างกลางฤดูกาล 2015 ถึง 2016 ซึ่งในตอนนั้นฟาน กัล ที่เป็นโค้ชในตอนนั้นต้องการเอา มาคัส แรชฟอด ขึ้นมาช่วย และนับได้ว่าเป็นตัวแปรที่แทบจะเป็นฮีโร่ไปในทันทีก่อนที่เจ้าตัวจะกลายเป็นขวัญใจแฟน ๆ ในพริบตาจากลีลาการเล่นที่เฉิดฉายไปกับบอลได้อย่างดี เรียกได้ว่าเลยก็ไปยิงประตูได้แบบไม่มีพลาด และการยิงประตูนั้นก็เฉียบคมแบบสุด ๆ ซึ่งทันทีที่ขึ้นมาผงาดบนสังเวียนสนามหญ้าในครั้งแรกเจ้าตัวก็ได้ซัดไปถึง 8 ประตูจาก 18 นัดที่รวมทุกรายการใน Season นั้นเลยทีเดียว และเขาคนนี้ก็ได้ยืนผงาดเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้ทีมนั้นคว้าแชมป์ FA Cup และได้รับการคาดหวังจากบรรดาแฟน ๆ ผีแดงให้ก้าวขึ้นเป็นความหวังใหม่ของทีมในแนวหน้าและเป็นหัวข้อสำคัญของแผนเกมรุกที่ไม่อาจขาดไปได้แม้แต่น้อยเลยทีเดียว

ต่อมาเมื่อปี 2016 ถึง 2017 กองทัพผีแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ได้มีการเปลี่ยนให้โมเซ่มูรินโญ่เข้ามาเป็น คนใหม่ของทีม แต่ในจังหวะเดียวกันนั้น มาคัส แรชฟอด นั้นก็ไม่เคยถูกมองข้าม และยังถูกเรียกใช้งานลงสนามให้กับทีมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าได้โชว์ฟอร์มการเล่นที่มีความเร้าใจโดดเด่นไปในลีกถึง 32 นัด ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นการลงสนามในฐานะตัวสำรองเสียส่วนใหญ่ แต่ทั้งนั้นก็ยังสร้างความปั่นป่วนให้กับทีมฝ่ายตรงข้ามเพราะสามารถยิงได้ถึง 5 ประตูโดยเบ็ดเสร็จแล้วลงทั้งหมด 53 นัด ก็ยังสามารถที่จะยิงได้ถึง 11 ประตูด้วยกันพร้อมทั้งพาแชมป์เดินทางเข้าสู่ความฝันได้อย่างงดงาม นั่นก็คือการคว้าแชมป์ลีกคัพไปครองหรือนับเป็น โทรฟรี่ที่สอง ในการค้าแข้งในอาชีพตัวเองกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเลยทีเดียว

โดยที่หลังจากนั้น มาคัส แรชฟอด ก็ได้ทำหน้าที่ขึ้นมาเป็นผู้เล่นหลักของ Manchester ยูไนเต็ดอย่างเป็นทางการในที่สุด ซึ่งในนาทีนั้นถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนโค้ชจากมูรินโญ่ มาเป็นโอเล่ กุนน่า โซชา ในปลายปี 2019 ก็ตามที เขาก็ยังถูกเรียกใช้งานอย่างไม่ขาดสาย และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นเคย เพราะเขายังสามารถยิงประตูให้ทีมได้อย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถล่มทลายเหมือนกองหน้าคนอื่น แต่นี่เป็นหนึ่งในเจ้าชายหรือเทพนักบอลที่มีการเสริมมิติแห่งเกมการุกให้ทีมสามารถเล่นต่อไปได้อย่างหลากหลาย และนอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในนักเตะที่แข็งแรงวินัยดีพร้อมทั้งไม่ค่อยมีอาการบาดเจ็บรบกวน ดังนั้นนับว่าเขาได้เล่นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตั้งแต่ฤดูกาลแรกกับฤดูกาลนี้เขาลงเล่นในลีกเกิน 30 เกมในทุกซีซั่นเลยทีเดียว

ผลงานอันโดดเด่นที่ไม่อาจลืมได้ลง

มาคัส แรชฟอด เขาคือหนึ่งในแกนนำหลักสำคัญที่ทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนั้นคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกในฤดูกาล 2016 ถึง 2017 และตำแหน่งรองแชมป์ยูโรป้า 2020 ถึง 2021 จนกระทั่งในรังของผีแดงได้เปลี่ยนไปเป็นการทำทีมของ ราล์ฟ รังนิก ก็ตามที แต่เจ้าตัวก็ยังได้รับโอกาสอยู่อย่างสม่ำเสมอและเป็นที่น่าเสียดายเป็นที่สุดเนื่องจากเกิดเหตุไม่คาดฝันเพราะเขากลับมีอาการบาดเจ็บหนัก ๆ เข้ามารบกวนเป็นครั้งแรกในชีวิตจึงทำให้เขาหายหน้าหายตาไปช่วงหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังได้กลับมาเล่นในทีมเช่นเคย ซึ่งเขามักจะถูกส่งลงสนามอยู่เป็นประจำจนถึงขั้นเรียกได้ว่าไม่ทำให้แฟนบอลคิดถึงอย่างแน่นอน แม้ว่าในทีมนั้นจะมีแนวรุก superstar อย่าง เอดิสัน คาวานี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในตอนนั้นเขาก็ยังคงเฉิดฉายและสามารถทำให้ทีมนั้นเดินต่อไปได้อย่างเข้มแข็งเลยทีเดียว