Tottenham Hotspur เป็นอีกหนึ่งทีมฟุตบอลที่มีแฟนคลับบ้านเราไม่น้อยเหมือนกัน ด้วยแนวทางการเล่นฟุตบอลเกมรุกที่สนุกเร้าใจ ถอยหลังไม่เป็นทำให้หลายคนพอเห็นแล้วมันติดใจ จนต้องขอประกาศตัวตามขเชียร์กันแบบเป็นตัวจริงเลย เรามาย้อนดูกันว่า เรื่องราวของสโมสรแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง
ข้อมูล
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1882 สนามเหย้าชื่อ สนามกีฬาท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ความจุของสนาม 62,062 ที่นั่ง เจ้าของปัจจุบัน อีเอ็นไอซีกรุ๊ป ประธานสโมสร แดเนียล เลวี่ ผู้จัดการทีม นูโน่ เอสปริริโต้ ซานโต้ สัญลักษณ์ของทีมเป็นรูปไก่ยืนอยู่บนลูกฟุตบอลแบบยุคดั้งเดิม แล้วมีตัวอักษรเขียนชื่อสโมสรอยู่ด้านล่าง ที่มาของตราสัญลักษณ์เรื่องไก่มาจาก แฮร์รี่ เพอร์ซี่ ฮอตสเปอร์ส ได้นำไก่ใส่เข้าไปในสัญลักษณ์ของทีมเพื่อทำให้ผู้เล่นรู้สึกฮึกเหิมก่อนลงสนามรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1901 ซึ่งต่อจากนั้น ก็เลยมีการนำไก่ มาเป็นสัญลักษณ์ของทีมในเวลาต่อมา
ประวัติการก่อตั้ง
สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1882 ตอนนั้นใช้ชื่อว่า ฮอตสเปอร์ เอฟซี สนามประจำสโมสรก็คือ ท็อตแน่ม มาร์เชส แต่การก่อตั้งก็ไม่ราบรื่นเท่าไร เพราะว่าสนามถูกระงับใช้งานเนื่องจากสถานการณ์สงครามโลกที่เกิดขึ้น นั่นทำให้ ทีมต้องไปหาเช่าสนามแห่งใหม่นั่นก็คือ สนามนอททัมเบอร์แลนด์ พาร์ค ย่านนอกเมืองนอททัมเบอร์แลนด์ เป็นเวลา 8 ปี ก่อนที่จะหาสนามใหมได้ในเวลาต่อมาก็คือ ไวท์ ฮาร์ต เลน (ที่ตั้งของสนามและทีมในปัจจุบัน) ช่วงก่อตั้ง ทีมได้เข้าร่วมเล่นลีคทางใต้ของประเทศ ซึ่งได้เป็นแชมป์ด้วย หนึ่งสมัย ก่อนจะได้รับโอกาสเข้าไปเล่นฟุตบอลลีค ดิวิชั่น 2 ของอังกฤษ ได้รองแชมป์มาหนึ่งครั้งตอนปี 1908
ความสำเร็จ
ของพวกเค้าก็มียุครุ่งเรืองด้วยเหมือนกัน หลังจากที่เข้าไปเล่นลีคอาชีพแบบเต็มตัว ทำให้ทีมต้องมีการปรับตัวเพื่อยกระดับตัวเองให้มากขึ้น ก่อนอื่นเลยพวกเค้าเปลี่ยนชื่อใหม่จาก ฮอตสเปอร์ส เอฟซี กลายเป็น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส จากนั้นพวกเค้าก็สามารถปีนกำแพงจากดิวิชั่นสองขึ้นมา ดิวิชั่นหนึ่งได้สำเร็จ จากผู้จัดการทีมที่ชื่อว่า อาเทอร์ โรเวย์ แถมไปได้ไกลถึงแชมป์ดิวิชั่น 1 ด้วยในซีซั่น 1950-1951 ไม่เพียงแค่นั้น สเปอร์ส ได้เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านมาเป็น บิล นิโคลสัน ตำนานของทีมกลับมาคุมทีม ก็ยังต่อยอดความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งแชมป์เอฟเอคัพสามสมัย , ลีคคัพหนึ่งสมัย และ คอมมูนิตี้ชิลด์ สามสมัย ยังไม่หมด พวกเค้ายังทำผลงานได้ดีในเวทียุโรปด้วย โดยพวกเค้าสามารถไปได้ไกลถึงการเป็นแชมป์ ยูฟ่าคัพด้วย หนึ่งสมัย และ แชมป์ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพอีกหนึ่งสมัยด้วย ก่อนจะส่งไม้ต่อให้กับ คีธ เบอร์คินชอว์ เข้ามาคุมทีมต่อ ก็ยังไปได้ถึงแชมป์ ยูฟ่าคัพ อีกหนึ่งสมัย
ยุคปัจจุบัน
หลังจากนั้นก็มีทั้งช่วงเวลาที่ขึ้นและลง ตามวัฎจักรของวงการฟุตบอล แต่ว่าหลังยุค 2000 เหมือนกับจะเป็นยุคใหม่ของสเปอร์สที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในและนอกสนาม แต่ว่า สเปอร์ส เองก็สามารถรักษาระดับมาตรฐานของตัวเองได้อยู่บนๆของตารางแต่เรื่องแชมป์ดูจะห่างไกลเกินไป แม้จะพยายามเปลี่ยนกุนซือหลายคนแต่ก็ยังไม่สำเร็จเสียที ก่อนจะมาสำเร็จในยุคของ ฆวนเด้ รามอส ที่พาทีมไปได้แชมป์ลีคคัพเมื่อปี 2007 แล้วนั่นก็คือ โทรฟี่สุดท้ายที่พวกเค้าคว้ามาได้จนถึงปัจจุบันนี้
อีกหนึ่งยุคที่น่าจะใกล้เคียงความสำเร็จมากที่สุด ก็คือ ยุคของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนเก่งที่ปั้นทีมสเปอร์ส ให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆจนพวกเค้าสามารถไปได้ไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยุโรป UCL แต่ว่าสุดท้ายอกหักได้เพียงแค่รองแชมป์เท่านั้น ถือว่าเป็นอีกครั้งในรอบหลายสิบปีที่พวกเค้าใกล้ความสำเร็จแบบเอื้อมมือแต่ก็คว้าไม่ถึง ต้องดูกันว่าความสำเร็จแบบถ้วยแชมป์ของสเปอร์สจะมาอีกครั้งเมื่อไร